ทวารวดี เป็นคำ
ภาษาสันสกฤต เกิดขึ้นครั้งแรกในปี
พ.ศ. 1427 โดยนายแซมมวล บีล (
อังกฤษ:
Samuel Beel) ได้แปลงมาจากคำว่า
โถโลโปตีหรือโกโลโปตี (
อังกฤษ:
Tolopoti) ที่มีอ้างอยู่ในบันทึกของ
ภิกษุจีนจิ้นฮง (
อังกฤษ:
Hiuantsang) ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 12 กล่าวว่า
โถโลโปตี เป็นชื่อของอาณาจักรหนึ่งตั้งอยู่ระหว่าง
อาณาจักรศรีเกษตร และอาณาจักรอิศานปุระ และเขาได้สรุปด้วยว่าอาณาจักรนี้เดิมตั้งอยู่ในดินแดน
ประเทศไทย(สยาม)ปัจจุบัน และยังสันนิษฐานคำอื่นๆที่มีสำเนียงคล้ายกันเช่น จวนโลโปติ (
อังกฤษ:
Tchouanlopoti) หรือ เชอโฮโปติ (
อังกฤษ:
Chohopoti) ว่าคืออาณาจักรทวารวดีด้วย
ต่อมาความคิดเห็นนี้ได้มีผู้รู้หลายท่านศึกษาต่อและให้การยอมรับเช่น นายเอดัวร์ ชาวาน (
อังกฤษ:
Edourd Chavannes) และ นายตากากุสุ (
อังกฤษ:
Takakusu) ผู้แปลจดหมายเหตุการเดินทางของภิกษุอี้จิงในปี
พ.ศ. 2439 และ นายโปล เปลลิโอต์ (
อังกฤษ:
Paul Pelliot) ผู้ขยายความอาณาจักรทวารวดีเพิ่มอีกว่ามีประชาชนเป็น
ชาวมอญในปี
พ.ศ. 2447 เป็นต้น ดังนั้นบรรดาเมืองโบราณรวมทั้งโบราณวัตถุสถานต่างๆที่พบมากมายโดยเฉพาะในบริเวณลุ่มน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งแต่เดิมไม่สามารถจัดกลุ่มได้ว่าเป็นของขอมหรือของไทย แต่มีลักษณะคล้ายกับศิลปะอินเดียสมัย
ราชวงศ์คุปตะ- หลังคุปตะ ราวพุทธศตวรรษที่ 9-13 ที่พันตรีลูเนต์ เดอ ลาจองกีเยร์ (
อังกฤษ:
Lunet de Lajonguiere) เรียกว่า กลุ่มอิทธิพล
อินเดียแต่ไม่ใช่
ขอม จึงถูกนำมาสัมพันธ์กลายเป็นเรื่องเดียวกัน โดยศาสตราจารย์ ยอร์ช เซเดส์ (
พ.ศ. 2468) และสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ (
พ.ศ. 2469) เป็นกลุ่มบุคคลแรกที่กำหนดเรียกชื่อดินแดนที่เมืองโบราณเหล่านี้ตั้งอยู่ รวมทั้งงานศิลปกรรมที่พบนั้นว่าคือดินแดนแห่งอาณาจักรทวารวดี และศิลปะแบบทวารวดี โดยใช้เหตุผลของตำแหน่งที่ตั้งอาณาจักรตามบันทึกจีนกับอายุของบันทึก และอายุของงานศิลปกรรมที่ตรงกัน อาณาจักรทวารวดีจึงกลายเป็นอาณาจักรแรกในดินแดนไทย กำหนดอายุตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 12 ลงมาถึงพุทธศตวรรษที่ 16
อาณาจักรทวารวดี เป็นที่น่าเชื่อถือขึ้นอีกเมื่อพบเหรียญเงิน 2 เหรียญ มีจารึกภาษาสันสกฤตอายุราวพุทธศตวรรษที่ 13 จาก
เมืองนครปฐมโบราณ มีข้อความว่า ศรีทวารวดีศวรปุณยะ ซึ่งแปลได้ว่า บุญกุศลของพระราชาแห่งศรีทวารวดี หรือ บุญของผู้เป็นเจ้าแห่งศรีทวารวดี หรือ พระเจ้าศรีทวารวดีผู้มีบุญอันประเสริฐ อาณาจักรทวารวดีจึงเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่ามีอยู่จริง และยังเชื่อกันอีกด้วยว่าเมืองนครปฐมโบราณน่าจะเป็นศูนย์กลางหรือเมืองหลวงของอาณาจักร (แต่ปัจจุบันพบเหรียญลักษณะคล้ายกันอีก 2 เหรียญ ที่
อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี และที่
อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ความสำคัญของเมืองนครปฐมจึงเปลี่ยนไป) แต่ขณะเดียวกันนักวิชาการบางท่านก็เชื่อว่าอำเภออู่ทอง หรืออาจเป็น
จังหวัดลพบุรี ที่น่าจะเป็นเมืองหลวงมากกว่ากัน